วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

15 อาชีพในฝันยอดฮิตตลอดกาล

15 อาชีพในฝันของใครหลายคนจะมีอาชีพอะไรกันบ้างไปดูกันเลย...

อาชีพแรก คุณหมอ ใครๆก็อยากเป็นทั้งนั้น แต่จะไปถึงฝันก็ต้องพยายามมากเลยทีเดียว

อาชีพที่ 2 ครู อาชีพที่เสียสละ เป็นอาชีพที่สอนให้คนเป็นคนอย่างแท้จริง

 


อาชีพที่ 3 แอร์โอสเตส/สจ๊วด  หนุ่มสาวรุ่นใหม่ หลายคนฝันอยากเป็นแอร์-สจ๊วด กันมากมาย

อาชีพที่ 4 วิศวกร อีกหนึ่งอาชีพที่หนุ่มๆหลายคนใฝ่ฝัน

 


อาชีพที่ 5 พยาบาล อาชีพที่ดูสะอาด สดใส แถมได้ช่วยเหลือคนไข้ที่เจ็บป่วย
 


อาชีพที่ 6 นักธุรกิจ ใครๆก็อยากเป็นนักธุรกิจเพราะเท่ห์มากมาย รายได้ดีด้วย 
 


อาชีพที่ 7 ศิลปิน ดารา นักร้อง ใครๆก็อย่างก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงกันทั้งนั้นจริงไหม? 
 


อาชีพที่ 8 ทนายความ  อาชีพที่ต้องใช้ยุธติธรรมสูงมากๆ เหมาะกับน้องๆที่รักความยุติธรรมเป็นที่สุด
 


อาชีพที่ 9 สถาปนิก งานออกแบบ วางแผน หนึ่งในความฝันของน้องๆหลายคน  
 


อาชีพที่ 10 ตำรวจ ทหาร  หนุ่มๆหลายคนฝันอยากเป็นคนในเครื่องแบบสักครั้ง 
 

อาชีพที่ 11 นักบิน  สุดยอดอาชีพในฝันของเด็กผู้ชายหลายคน อย่างเท่ห์!




อาชีพที่ 12 มัคคุเทศก์ ไกท์นำเที่ยวนี่แหละสุดยอดความฝันของใครหลายคน



อาชีพที่ 13 กุ๊ก/เชฟ เชฟก็เท่ห์ไม่เบาทำอาหารอร่อยๆให้คนอื่นได้ทานอย่างมีความสุข



อาชีพที่ 14 ล่าม  เป็นล่ามก็เงินเยอะใช้เล่น แถมได้รู้ภาษาแบบแบบลึกๆอีกด้วย



และสุดท้ายอาชีพที่ 15 นักข่าว หนึ่งในอาชีพในฝันของหนุ่มสาวยุคใหม่   


Credit   http://campus.sanook.com 


 



วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

8 อันดับขนมหวานที่ชาวแซบนิยมทานมากที่ซู้ดดด

1.ไอศกรีม
        เป็นของยอดฮิตตลอดกาลเลยนะคะก็ไอศกรีมหรือไอติมเป็นของหวานแช่แข็งที่ให้ทั้งความอร่อยและความสดชื่นค่ะยิ่งถ้าได้ทานตอนอากาศร้อนๆ ล่ะก็นะ ไม่อยากจะเซดเลยล่ะค่ะ ไอศกรีมเข้ามาในเมืองไทยสมัยรัชกาลที่ 5ซึ่งคนไทยนิยมเรียกกันว่าไอศกรีมหวานเย็นเพราะทำจากน้ำหวานหรือน้ำผลไม้เอาไปปั่นเย็นจนแข็ง ผู้ผลิตไอศกรีมหวานเย็นรายแรกคือบริษัทป๊อบ ไม่แปลกเลยนะคะที่ของหวานชนิดนี้จะครองใจใครหลายๆคน
2.ชูครีม
        ว้าว! กำลังเป็นที่นิยมเลยนะคะกับขนมชนิดนี้ หรือที่ใครหลายๆคนเรียกว่าขนมเอแคลร์ เพราะมีลักษณะที่คล้ายกันเป็นลูกกลมนิ่มๆ แป้งข้างนอกจะกรอบบาง แต่จะสอดไส้ด้วยครีมวนิลาหรือช็อกโกแลต มีกลิ่นหอมซึ่งชูครีมจะมีลักษณะใหญ่กว่าเอแคลร์ประมาณว่าทาน 1-2 ลูกก็อิ่มแล้ว ส่วนรสชาติก็คล้ายๆ กันค่ะ รับรองเลยว่าทานแล้วจะติดอกติดใจในความอร่อย
3.โดนัท
        อร๊าย! ถ้าพูดถึงขนมมีรูคงหนีไม่พ้นขนมโดนัท คงไม่มีสาวแซบคนไหนไม่รู้จักขนมชนิดนี้ โดนัทเป็นขนมแป้งทอดหรืออบที่มีเนื้อคล้ายกับขนมเค้ก มีลักษณะกลม มีรูตรงกลางคล้ายกับห่วงยาง มีหลายรสชาติ ถ้าเป็นของไทยจะมีน้ำตาลอยู่ที่ผิวของขนม หรือที่เรารู้จักกันว่าโดนัทคลุกน้ำตาลนั่นเอง
4.สมูทตี้
        อันดับนี้ขอเอาใจสาวๆ ที่ชอบดื่มน้ำผลไม้กันหน่อยจ้าาา...แต่สมูทตี้นั้นแตกต่างกันน้ำผลไม้ตรงที่เนื้อสมูทตี้จะเนียนเป็นเน้อเดียวกันทั้งแก้ว คือสามารถทานได้เกลี้ยงไม่เหลือเป็นกากน้ำแข็ง แต่ถ้าเป็นน้ำผลไม้ปั่นจะรู้สึกได้ว่ามีกากน้ำแข็งแยกออกจากเนื้อผลไม้ บางครั้งอาจดูดไปเจอก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ ทั่ปั่นไม่ละเอียด นอกจากจะได้คุณค่าจากผลไม้แล้วยังได้คุณค่าจากโยเกิร์ตด้วยนะคะ
5.บานอฟฟี่
        กรี๊ด! ถูกใจใครต่อใครหลายๆ คนเลยนะคะกับขนมหวานชนิดนี้ ด้วยเสน่ห์ที่มีครบทุกรสชาติ ทั้งความกรุบกรอบและเค็มจากแป้งพายชั้นล่าง ถัดมาเป็นช็อกโกแลตนิ่มรสหวานและกล้วยหอมเคลือบคาราเมล ปิดหน้าด้วยวิปปิ้งครีมฟูเบาที่แฝงด้วยรสชาติของชีสมาสคาโปเน่ ว้าว! อร่อยสุดๆ ไปเลยค่ะ เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่ใครได้ลิ้มลองจะต้องติดใจ
 6.ทาร์ตไข่
       ขนมหวานชนิดนี้เพิ่งเปิดตัวใครหลายๆ คน แล้วนะคะ ด้วยรสชาติที่กรอบนอกนุ่มใน หวาน หอม สำหรับต้นตำรับของขนมหวานชนิดนี้มาจากมาเก๊าค่ะซึ่งขนมทาร์ตไข่มีรูปร่างคล้ายๆกับพาย เอ้า! ใครที่ยังไม่เคยลองลิ้มรสก็ไปหาซื้อกันนะคะ
 7.พาย
        ว้าว! อันดับนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างยาวนานเช่นกันค่ะ ซึ่งพายเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่ผ่านกระบวนการวิธีในการอบ โดยปกติพายจะมีไส้ต่างๆ ไว้ด้านใน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ ปลา ผัก ผลไม้ ชีส ครีม ช็อกโกแลต คัสตาร์ด ถั่ว พายมี 2 ลักษณะคือแบบที่มีแป้งประกบทั้งสองด้าน เช่น พายไก่ พายสับปะรด หรืออีกประเภทมีแป้งด้านเดียว เช่น พายที่เป็นขนมหวานซึ่งส่วนใหญ่ไส้จะเป็นขนมหวานซึ่งส่วนใหญ่ไส้จะเป็นของหวานหรือผลไม้ก็ได้
   
8.สโคน
        อันดับนี้ถึงจะเป็นอันดับสุดท้าย แต่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันค่ะ สโคนเป็นขนมปังชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งข้าวสาลี ข้าวบาเลย์หรือข้าวโอ๊ตขนมชนิดนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับมัฟฟินของอเมริกันแต่มีลักษณะเป็นก้อนหนากว่า และมักจะใส่ลูกเกดหรือผลไม้ตากแห้งอื่นๆ ลงไปด้วย ใครยังไม่เคยทานไปหาทานกันดูนะคะ


แหล่งที่มา:หนังสือSPICY

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

10 อันดับสวนสนุกของโลก

10. สวนสนุกซีเวิลด์
เกิดจากแนวคิดของศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย 4 คนที่ต้องการสร้างร้านอาหารที่มีบรรยากาศแบบทะเลๆ 

แต่แทนที่ลูกค้าจะได้ทานปลาเป็นอาหาร พวกเขากลับพลิกแพลงให้ลูกค้าได้ชมปลาว่ายวนไปมารอบๆ
ตัวแทนสวนสนุกซีเวิลด์แห่งแรกเกิดขึ้นที่ซานดิเอโกในปี 2507 จากนั้นก็มีเพิ่มขึ้น
จนกระทั่งมีจำนวนถึง 3 แห่งในปัจจุบัน นอกจากที่ซานดิเอโกแล้วก็ยังมีอีกที่เมืองออร์แลนโดรัฐฟลอริดาและเมืองซานอัน
โทนิโอ รายการเด็ดของที่นี่คือ การแสดงสดของสัตว์น้ำแสนรู้ แน่นอนว่านักท่องเที่ยวมาที่นี่ก็ต้องเตรียมใจมาเปียก ทุกแห่งจะมีโปรแกรมสำหรับ การทัศนศึกษาซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบได้ความรู้ไปด้วยในตัว เด็กๆ สามารถเลือกโปรแกรมทั้งแบบมาเช้าเย็นกลับ และแบบค้างคืน ที่สวนสนุกซีเวิลด์ในออร์แลนโดยังมีโปรแกรมว่ายน้ำลึกกับปลาฉลาม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ใส่
ชุดประดาน้ำแล้วเข้าไปอยู่ในกรงเหล็ก ก่อนที่กรงจะถูกหย่อนลงสู่สระใหญ่ที่มีปลาฉลามเขี้ยวยาวว่ายวนอยู่รอบๆ

9. สวนสนุก พาราเมาท์
ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเวียคอมฯ คือคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เพราะจุดเด่นของที่นี่คือเครื่องเล่นหลาก
หลายชนิดที่มีแนวคิดมาจากภาพยนตร์ สวนสนุกของพาราเมาท์มี 5 แห่งในอเมริกาเหนือ แต่ละแห่งมีคอนเซ็ปต์เกี่ยวพันกับบริษัทในเครือเวียคอม ที่ทำธุรกิจด้านบันเทิง เช่น บริษัทผู้ผลิตรายการการ์ตูนนิกเคิลโลเดี้ยนสวนสนุก “เกรท อเมริกา” (Great America)
ของพาราเมาท์ที่ตั้งอยู่ นอกเมืองซานฟรานซิสโก มีบริเวณที่เรียกว่า นิกเคิลโลเดี้ยน เซ็นทรัล มีเครื่องเล่นหลายอย่างที่เกี่ยวพันกับรายการการ์ตูน เร็วๆ นี้มีเครื่องเล่นอีก 10 อย่างเพิ่มเข้ามา และที่สวนสนุกคิงส์ ไอส์แลนด์ของพาราเมาท์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซินซินเนติ ก็มีเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะในความมืดที่เรียกว่า “สคูบี้ -ดู” และที่สวนสนุกคิงส์ โดมิเนียน ในรัฐเวอร์จิเนีย ก็มีเครื่องเล่นเป็นหอสูงที่ปล่อยนักท่องเที่ยวดิ่งลงมาจากความสูง 305 เมตร

8. เลโกแลนด์ (Legoland)
ตั้งอยู่ในเมืองคาร์ลส์บาด รัฐแคลิฟอร์เนีย สวนสนุกแห่งนี้มีทั้งส่วนที่จัดแสดงงานประติมากรรมที่ทำจากตัวต่อเลโก้นับล้านๆ ชิ้น 

และส่วนที่เป็น เครื่องเล่นต่างๆ หัวใจหรือไฮไลต์ของสถานที่แห่งนี้คือ “มินิแลนด์” ซึ่งใช้ตัวต่อเลโกมากกว่า 20 ล้านชิ้น สร้างอาคารจำลอง
ซึ่งเป็นที่สำคัญๆในสหรัฐอเมริกา เช่น ทำเนียบขาว และเมืองนิวยอร์กจำลองและทั่วทั้งสวนสนุกแห่งนี้มีการใช้ตัวต่อเลโกมากกว่า 30 ล้านชิ้น ถ้าไม่อยากเดินชม เฉยๆ จะไปแวะหาความสนุกตื่นเต้นกับเครื่องเล่นต่างๆ ก็ได้ ที่นี่มีเครื่องเล่นมากกว่า 50 ชนิด และยังมี
โรงเรียนฝึกขับรถ 1 แห่งอยู่ในนั้นด้วย นอกจากนี้เด็กๆ ยังสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนในคอร์สที่เรียกว่า “ไมนด์สตรอม” (Mindstorms)
เพื่อฝึกหัดสร้างหุ่นยนต์ คอร์สนี้ทางสวนสนุก จัดร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเส็ตส์ หรือเอ็มไอที สถานที่แห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 นอกจากที่สหรัฐแล้ว สวนสนุกเลโกแลนด์ยังมีในอีก 3 ประเทศ คือ อังกฤษ เดนมาร์ก และเยอรมนี

7. เลค คอมเพาซ์ (Lake Compounce) 
อยู่ในเมืองบริสตอล รัฐคอนเนกติกัต เป็นสวนสนุกอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นแห่งหนึ่งที่สวยที่สุดในโลกเช่นกัน เพราะที่แห่งนี้ล้อมรอบ
ไปด้วยทะเลสาบและภูเขา เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2389 หรือ 150 กว่าปีมาแล้ว แต่ตอนนั้นเปิดบริการในฐานะสวนสาธารณะให้ผู้คน
เข้ามาพักผ่อน หย่อนใจ ต่อมาในปี 2540 จึงมีนายทุนรายใหม่คือบริษัทสวนสนุกเคนนีวูดฯ เข้ามาซื้อกิจการทำเป็นสวนสนุกเต็มรูปแบบผู้ที่
ชื่นชอบของเก่า ของ โบราณก็ไม่ควรพลาดรถไฟเหาะและชิงช้าสวรค์รุ่นเจ้าคุณปู่ (ปี 2454) รวมทั้งเรือจักรไอน้ำที่จะพานักท่องเที่ยวล่องชมวิวทะเลสาบ นอกจากนี้เพื่อ เป็นการรักษาบรรยากาศสวนสนุกของครอบครัว จึงมีบริการเสิร์ฟน้ำอัดลมฟรีตลอดทั้งวัน (ของหวานขึ้นชื่อของที่นี่เป็นขนมทอดชื่อว่า “โอรีโอ”) เครื่องเล่นใหม่ล่าสุดของ เลค คอมเพาซ์มีชื่อว่า คลิปเปอร์ โคฟ (Clipper Cove) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนน้ำ มีทั้งเชือก ทั้งตาข่ายและกระดานหกให้ปีนป่ายและกระโดดกันสุดเหวี่ยง นอกจากนี้ยังมีการแสดงของการ์ตูนการ์ฟิลด์และเพื่อนพ้องรวมทั้งละครหุ่นโชว์ด้วย ที่นี่มีเครื่องเล่นทั้งหมด 40 อย่าง ค่าผ่านเข้าประตูสำหรับผู้ใหญ่ 29.95 ดอลลาร์ และเด็ก 20.95 ดอลลาร์
6. สวนสนุกเคนนี่วูด (Kennywood)
ผู้ที่ชื่นชอบสวนสนุกแบบดั้งเดิม ที่มีขนาดพื้นที่เล็กๆ ไม่ต้องเดินกันให้เมื่อยมากนักก็มักจะติดอกติดใจสวนสนุกเคนนี่วูด ซึ่งเปิดให้บริการ

มาตั้งแต่ปี 2441 แต่เดิมสวนสนุกแห่งนี้เป็นของบริษัทการรถไฟเอกชนที่มีนายแอนดรู เมลลอน เป็นเจ้าของ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ชิงช้าสวรรค์และภัตตาคาร แห่งหนึ่งจากยุคนั้นก็ยังคงตกทอดมาให้คนรุ่นนี้ได้เล่นและใช้บริการกัน ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่สำคัญแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาแห่งหนึ่งด้วย เพราะที่นี่มีมรดกทางวัฒนธรรมของอเมริกันมากมายเช่น รถไฟเหาะรุ่นแรกๆ ที่ทำด้วยไม้ ล่องแก่งยุคแรกๆ ที่ทั้งเรือพายและเรือท่อนซุงทำจากไม้จริงๆ แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะมีแต่ของเก่าๆ เพราะรถไฟเหาะและเครื่องเล่นยุคใหม่ที่ชวนตื่นเต้นหวาดเสียวก็มีให้เล่นกัน 
รวมทั้งสวนสนุกสไตล์ฮาวายที่ เรียกว่า หุบเขาแห่งภูเขาไฟหรือ Volcano Valley ที่มีเครื่องเล่นที่เรียกว่า Big Kahuna เป็นเรือที่แล่นแบบควงสว่านกระตุ้นต่อมอะดรีนาลินได้ เป็นอย่างดีที่นี่มีเครื่องเล่นสำหรับผู้ใหญ่ 34 ชนิด สำหรับเด็ก 14 ชนิด ช่วงฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 1 ล้านคน ค่าผ่านประตู 8 ดอลลาร์แต่สำหรับผู้สูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ลดราคาลงเหลือ 7 ดอลลาร์และค่าตั๋วเครื่องเล่นแบบ 1 วันเล่นได้ทุกอย่างก็เพียง 28.95 ดอลลาร์
5. สวนสนุกดิสนีย์ (Disney)
คำว่า “ดิสนีย์” กับคำว่า “สวนสนุก” นั้นแทบจะกลืนกลายเป็นคำเดียวกันไปแล้วเพราะสวนสนุกดิสนีย์นั้น นับเป็นผู้บุกเบิกและดำเนินนโยบายการตลาดที่ทำให้คนทั่วโลกได้ตระหนักรับรู้ถึงนิยามแห่งคำว่าสวนสนุกปัจจุบันดิสนีย์มีสวนสนุก 5 แห่ง คือ สวนสนุกดิสนีย์ที่เมืองอันนาไฮม์ที่เมืองอันนาไฮม์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย (เปิดในปี 2498) สวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ที่เมืองออร์แลนโดในรัฐฟลอริดา (เปิดในปี 2514) ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น และที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแห่งที่ 5 เปิดที่ฮ่องกงในช่วงปลายปี 2548 สวนสนุกแต่ละแห่งของดิสนีย์มีเครื่องเล่นจำนวนมากมาย มีการแสดงและขบวนพาเหรดหลายรอบ ทั้งยังมีโรงแรม ร้านค้าและภัตตาคาร ร้านอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนแต่ละแห่งมีจำนวนเครื่องเล่นใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอยู่เสมอ เช่นสวนสนุกวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่ฟลอริดาจะมีเครื่องเล่นใหม่ที่เรียกว่า Mission : SPACE at Epcot ซึ่งจำลองบรรยากาศการนั่งยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคารถัดไปจะมีรีสอร์ตแห่งใหม่คือ Pop Century Resort และในก็จะมีที่เที่ยวแห่งใหม่ในบริเวณสวนสนุกแห่งนี้คือ Epedition Everest เป็นรถไฟเหาะความเร็วสูงที่สามารถวิ่งถอยหลังได้ด้วย
4. ดิสคัฟเวอรี โคฟ (Discovery Cove)
เพิ่งเปิดเมื่อปี 2543 ตั้งอยู่ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เป็นสวนสนุกแบบสวนน้ำขนาดย่อมที่มีระบบวางผังและการจัดการดีเยี่ยม 

จำกัดจำนวน นักท่องเที่ยวให้เข้าได้รอบละ 1,000 คนเท่านั้น ที่นี่จึงไม่ต้องมีการเข้าคิวเป็นแถวยาวเพื่อรอเล่นเครื่องเล่น บริการก็ทั่วถึงนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะเมื่อเข้ามาภายในบริเวณแล้ว นักท่องเที่ยวแต่ละคนจะมีไกด์นำชมสวนน้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีเวิลด์ (SeaWorld) ประกอบด้วยทะเลสาบน้ำจืดชายหาด แนวประการัง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถว่ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งภายในบริเวณสวนสนุก
หรือจะนั่งเรือไปก็ได้ ที่นี่ให้ทั้งความ บันเทิงและความรู้ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวมุ่งจะมาทำคือการได้ว่ายน้ำเคียงข้างไปกับปลาโลมาแสนรู้ 

นอกจากนี้ยังมีทัวร์ดำน้ำอีกด้วย ราคาแพ็กเกจ ทัวร์เริ่มที่ 229 ดอลลาร์
3. ซีดาร์ พ้อยท์ (Cedar Point)
อยู่ที่เมืองแซนดัสกี้ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาเช่นกัน เน้นเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่คลั่งไคล้ความรู้สึกขยักขย้อนในกระเพาะเวลาที่เคลื่อนตัวเลื่อนไหลวูบวาบไปตามรางรถ ซีดาร์ พ้อยท์มีเครื่องเล่นถึง 68 ชนิดและรถไฟเหาะอีก 16 ชนิด เรียกว่ามีมากกว่าสวนสนุกอื่นใด ในโลกใบนี้เครื่องเล่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในฤดูร้อนนี้คือ Top Thrill Dragster ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะที่สูงที่สุดและเคลื่อนตัว ด้วยความเร็วสูงสุดในโลก นั่นหมายถึงเมื่อรถเคลื่อนถึงยอดสูงสุดนั้นคือเหนือพื้นดิน 420 ฟุต และความเร็วสูงสุดคือ 120 ไมล์ต่อชั่วโมง มีทั้งการเคลื่อนตัวแบบตกดิ่งลงจากเบื้องสูง และหมุนม้วนแบบควงแต่ผู้ที่ชอบความบันเทิงแบบนุ่มนวลก็มีที่ให้เข้าไปหย่อนใจ คือสวนสนุกตัวการ์ตูนในชุด“พีนัทส์” (Peanuts) หรือที่รู้จักกันดีในนามสนู้ปปี้และเพื่อนพ้อง นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำ Soak City สำหรับคนที่ไม่กลัวน้ำ และสวนสนุกประลองความเร็วChallenge Park ที่มีสนามแข่งโกคาร์ท สนามกอล์ฟเล็ก และเครื่องเล่น RipCord ที่ผสานความตื่นเต้นของการดิ่งพสุธาและการเล่นเครื่องร่อนเข้าไว้ด้วยกันช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุดของที่นี่คือ เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมซีดาร์ พ้อยท์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2413 ราคาตั๋ว 43.95 ดอลลาร
 2. บุช การ์เด้น (Busch Garden)
เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2502 ตั้งอยู่ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาและมีอีกแห่งที่เมืองวิลเลียมสเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย (เปิดปี 2518)จุดเด่นคือความเป็นสวนสนุกที่ผนวกสวนสัตว์เข้าไว้ด้วย บรรยากาศจึงเน้นความเป็นธรรมชาติ รถไฟเหาะมีทั้งแบบดั้งเดิมที่เรียกเสียงกรี๊ดพอเบาะๆ และแบบใหม่ที่เพิ่มความหวาดเสียวมากขึ้นสวนสนุก บุช การ์เด้น ที่เมืองแทมปา มีเครื่องเล่น 29 ชนิด เน้นบรรยากาศแบบแอฟริกา มีพื้นที่จำลองป่าโปร่งที่นักท่องเที่ยวสามารถชมชีวิตความเป็นอยู่ของช้าง แรด ม้าลายและกวางที่หากินโดยอิสระอยู่ในพื้นที่กว่า 29 เอเคอร์ แหล่งดึงดูดใจใหม่ล่าสุดของสวนสนุกทั้งสองแห่งคือ บ้านผีสิง 4 มิติ (Haunted Lighthouse 4D theater) ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 3 มิติ ที่มีเอฟเฟกต์พิเศษเพิ่มความสมจริงขึ้นมาอีกมิติ เช่น ลมระเบิดและฝอยน้ำ ที่ฉีดพวยพุ่งออกมาจากเก้าอี้นั่งของผู้ชมทุกๆ ที่นั่งที่วิลเลียมสเบิร์กจะเด่นที่เครื่องเล่นประเภท รถไฟเหาะ และหมู่บ้านวัฒนธรรมโดยจะแบ่งพื้นที่สวนสนุกเป็นหมู่บ้านยุโรปจำลอง 9 หมู่บ้านเพื่อแสดงภาพวัฒนธรรมพื้นเมืองของอังกฤษ สกอตแลนด์เยอรมนี และอิตาลีรวมจำนานเครื่องเล่นของที่นี่ก็ประมาณ 50 อย่างค่าตั๋ววันสำหรับผู้ใหญ่ 46.99 ดอลลาร์ ตั๋วเด็ก 39.99 ดอลลาร์ส่วนบุช การ์เด้นท์ที่เมืองแทมปา ค่าตั๋ววันสำหรับผู้ใหญ่ 51.95 ดอลลาร์ เด็ก 3-9 ขวบ 42.95 ดอลลาร์
 
1. อัลตั้น ทาวเวอร์ (Alton Towers)
สวนสนุกแห่งนี้อยู่ในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมือง Staffordshireห่างจากกรุงลอนดอนไปทางเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง เครื่องเล่นประเภทรถไฟ เหาะทั้งหลายของอัลตั้น ทาวเวอร์ เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจทั้งผู้ที่ไปเที่ยวแบบครอบครัวและผู้ที่แสวงหาความมันบนความระทึกใจโดยเฉพาะสองเครื่องเล่นใหม่ของที่นี่คือ บ้านผีสิงและลานเล่นลูกยางสำหรับเด็กเล็ก ส่วนผู้ที่ชอบความหวาดเสียวบนที่สูงก็ต้องไปลองเครื่องเล่นที่มีชื่อว่าBlack Hole, Submission และ Ripsawนอกจากเครื่องเล่นแล้ว ภายในบริเวณอัลตั้น ทาวเวอร์ยังมีโรงแรม 2 แห่งและภายในโรงแรม 1 ใน 2 แห่งนี้ยังมีสวนสนุกแบบสวนน้ำสไตล์แคริบเบียนในร่มอีกด้วยนับเบ็ดเสร็จจำนวนเครื่องเล่นของที่นี่มี 30 อย่างด้วยกัน
แต่ละฤดูกาลจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านคน และเดือนกรกฎาคมของแต่ละปีคือช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเนืองแน่นที่สุด อัลตั้น ทาวเวอร์ เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2523ค่าเข้าชมสำหรับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป 26 ปอนด์ 4-11ขวบ 21 ปอนด์ และต่ำกว่า 4 ขวบเข้าฟรี
(แหล่งข้อมูลhttp://www.pamame.com)